Saturday, June 23, 2007

ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย

วันนี้ผมได้กรอกแบบสอบถามของทางมหาวิทยาลัยในขณะที่ลงทะเบียนรับปริญญาบัตรทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งคำถามที่ทางมหาวิทยาลัยถามนั้นมีส่วนหนึ่งที่เกี่ยวกับการขอคำแนะนำในการเรื่องหลักสูตร การเรียนการสอน และกิจกรรมนิสิต

ผมเกรงว่าการที่ผมกรอกระบายความอัดอั้นลงไปนั้น ผลสุดท้ายแล้วอาจเป็นความว่างปล่าวเพราะไม่มีผู้สนใจจดหมายใบน้อยๆ (จริงๆแล้วคือแบบสอบถามใบน้อยๆ) ของผม ผมจึงนำขึ้นมาวางไว้ในบล็อกส่วนตัวด้วย เนื่องจากมีความหวังเล็กๆว่า ความเห็นนี้อาจบังเอิญมีความหมายต่อผู้หลงทางเข้ามาบางคนบ้าง เท่าหางอึ่งก็ยังดี

6.2 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับหลักสูตรและสาขาวิชาที่เรียน
ควรเพิ่มความหลากหลายของเนื้อหา โดยอาจลดจำนวนวิชาบังคับที่หวังดีต่อนิสิตเหลือเพียงแค่วิชาที่จำเป็นจริงๆของสาขาวิชา จากนั้นเพิ่มอากาสของนิสิตในการเลือกวิชาเสริมในด้านที่ตัวเองต้องการ เนื่องจากผู้ที่จบในปริญญาสาขานี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้โปรแกรมหนึ่งหรือเครื่องมือหนึ่งตามตลาดของประเทศให้เป็น นั่นเป็นสิ่งที่สายอาชีพควรพิจารณา ไม่ใช่ของมหาวิทยาลัย

6.3 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเรียนการสอน
ควรมีการตรวจสอบการสอนและการให้เกรดของอาจารย์ที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากในสี่ปีที่ผมเรียนรู้มาผมพบว่า ในมหาวิทยาลัยอาจมีผู้ที่สอนที่ไม่มีความพยายามที่จะสอน หรือมีผู้สอนที่ไม่มีความพยายามที่จะออกเกรด แม้กระทั่งมีผู้สอนที่ไม่ต้องการออกเกรดอย่างเป็นธรรม

โดยเฉพาะในกรณีสุดท้าย นิสิตผู้ได้รับความอยุติธรรมนั้นขาดที่พึ่งที่ปลอดภัย การร้องเรียนไปยังภาควิชาหรือทางคณะนั้นกลับก่อให้เกิดผลร้ายต่อนิสิตเองอีกด้วย

6.4 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนานักศึกษา
ขอขอบคุณที่ท่านให้ความสนใจกับกิจกรรมของนักศึกษา

ผมเห็นว่าทางมหาวิทยาลัยควรพิจารณา ยกเลิกการเก็บค่ากิจกรรมจากนิสิตในทุกภาคการศึกษา หากเงินที่นิสิตจ่ายไปนั้นนำไปใช้เพื่อกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม เช่นการรับน้องของกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง หรือการบริหารองค์กรณ์นิสิตที่นิสิตไม่มีส่วนร่วมจริงๆ

ทุกวันนี้นิสิตส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเข้าถึงสิ่งที่ตัวเขาเองเป็นเจ้าของ ทางผู้บริหารได้ทำให้นิสิตทั่วไปเข้าถึงทรัพยากรณ์นั้นได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่การที่นิสิตบางกลุ่มนั้นตัดสินใจการใช้ทรัพยากรณ์ที่ได้มา ไปในทางที่ไม่มีประโยชน์ต่อนิสิตหรือทางมหาวิทยาลัย หรือการกระทำนั้นยังเป็นที่ถกเถียง (เช่นการรับน้อง และการฟุ่มเฟือยกับการกินเลี้ยง) นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เสียยิ่งกว่า

ผมเห็นว่ากิจกรรมนิสิตนั้นจะเกิดขึ้นได้ หากมหาวิทยาลัยคอยพลักดันอยู่ห่างๆ ให้ความช่วยเหลือในสิ่งจำเป็นพื้นฐาน (สถานที่ เวลา และคำปรึกษา) การผลักดันโดยมหาวิทยาลัยคอยบงการการทำงานนั้น คงเรียกไม่ได้ว่าเป็นกิจกรรมนิสิตนัก

มหาวิทยาลัยสามารถเป็นต้นแบบที่ดีของสังคมไทยที่นิสิตจะออกไปพัฒนาและใช้ชีวิตอยู่ได้ ตลอดสี่ปี่ที่ผมได้เรียนรู้มานั้นผมพบว่า สังคมนิสิตภายในมหาวิทยาลัยและสังคมของประชาชนในประเทศไทยนั้น ในภาพรวมและรายละเอียดล้วนเหมือนกันทั้งสิ้น

นั่นคือยังต้องการการพัฒนาอย่างเร่งด่วน เหมือนๆกัน

ปล. ผมเขียนขณะที่ผมกำลังมีไข้หวัด ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดผมต้องขอโทษด้วย

9 comments:

Anonymous said...

เคยได้ยิน อ.ท่านหนึ่งพูดว่า ไม่ค่อยมีใครมาสนใจข้อมูลแบบนี้หรอก เค้าก็แค่เก็บไว้ในฐานข้อมูล แต่ อ.บางท่าน(ส่วนนอกมาก) ก็สนใจที่จะอ่านเหมือนกันนะ

แต่ก็อย่างที่เกรงไว้อยู่ดี สุดท้ายกลายเป็นความว่างเปล่า ถ้าเค้ายังไม่ปรับระบบให้ดีขึ้น (ไม่ได้หมายถึงระบบกรอกข้อมูลนะ :P)

Sucha said...

อย่างน้อยก็ยังดีที่ได้ทำ(แบบสอบถาม) และได้เขียนในสิ่งที่(คิดว่า)ควรจะเขียน

และ(สักวันหนึ่ง)เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาเห็น ก็อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้

"มันต่างกันที่ตัวนี้แหละ"
ถ้างงก็คลิกที่นี่

Sucha said...

มันกดไม่ได้ ตามนี้ละกัน

http://chuwat.wordpress.com/2007/06/08/มันต้องสู้ต่อ/

jittat said...

อ่านนะ

Anonymous said...

ดีจังมีคนอ่านด้วย แอบกังวลเหมือนกันว่าจะไม่มีคนอ่าน เหอ ๆ

Unknown said...

เขียนเรื่องหลักสูตรไปเหมือนกาน เก็บกดๆต้องนั่งเรียนวิชาประหลาดๆยันปีสาม
แอบบ่นเรื่องพวกนอกภาคที่ต้องใช้ดวงลงทะเบียนด้วย
(ที่ยันปีสี่ก็ไม่เคยได้เช้าเล้ย)

Anonymous said...

Off-topic, but "stuffs" is not a word; "stuff" is.

The only word "stuffs" is the verb stuff in present-tense, third-person, "he stuffs the shirt into the gym bag," -- เขายัดเสื้อเข้าไปในกระเป๋า

-- Jason (who can't log in right now)

ธีรเดช จันทร์วิเมลือง said...

ขอบคุณคุณ PoomK ที่ให้ความสำคัญกับวงการการศึกษา ผมเคยสอนอยู่ ม.เอกชน ที่ไม่ดังแห่งหนึ่งมา ทำให้เข้าใจได้ทันทีเลยว่า ในวงการการศึกษานี้ ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์แล้ว คนดีและมีความสามารถเหลืออยู่น้อยจริงๆ ด้วยการนำเสนอของคุณ PoomK มันจุดประกายให้ผมอยากจะเขียนบล็อกเผยข้อมูลน้ำเน่า ในวงการการศึกษาบ้าง ขอให้มีกำลังใจมากๆ เพื่อพัฒนาประเทศเราครับ ทั้งดีและเก่ง คือสิ่งที่เราต้องการ

Anonymous said...

อ. เขมพยายามอยุ่เหมือนกันที่จะเอา MAterial Sceince ไร้สาระออกไป ยกเว้นว่าอยากจบไปทำ Semi Conductor ที่ไหนก็ว่ากันไป วิชาห่วยๆ แต่คิดเกรดด้วย แถมบังคับให้ภาคคอมเรียนด้วย ควรเอาออกไปได้แล้ว